พีค! ค้นกุฏิ เจ้าคุณแจ๊ค เจอถุงยางและเหล้าด้วย

พีค! ค้นกุฏิ เจ้าคุณแจ๊ค เจอถุงยางและเหล้าด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นกุฏิ เจ้าคุณแจ๊ค หนึ่งในเป้าหมายหลักในปฏิบัติการ ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด พบถุงยางและเหล้าด้วย พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ได้นำเจ้าหน้าที่รวมกว่า 60 นาย เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด” และ กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กรุงเทพมหานคร เพื่อตามจับผู้กระทำผิดทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสํานักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด

โดยเป้าหมายสำคัญของการตรวจค้นอยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก 

ซึ่งเป็นที่จำวัดของพระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัด หรือ อีกตำแหน่งคือรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ทั้งนี้เมื่อพบตัว พระสิทธิวรนายกเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ ภายในกุฏิ ก่อนจะนิมนต์พระสิทธิวรนายก ไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อทำการสอบปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบภายในกุฏิพระสิทธิวรนายก ยังพบเหล้าที่เก็บไว้อีกหลายขวด และเบียร์ที่แช่ในตู้เย็น รวมถึงถุงยางอนามัยด้วย อยู่ในชั้นเก็บของติดกับเตียงนอน โดยพระสิทธิวรนายก ให้การอ้างว่า เหล้าทั้งหมดที่พบเป็นเหล้าแก้บนที่เก็บไว้นานแล้ว ส่วนถุงยางอนามัยเป็นของลูกศิษย์ที่นำมาทิ้งไว้ ก่อนเจ้าหน้าที่เก็บไปตรวจสอบและนิมนต์ไปสอบสวนต่อไป

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้นิมนต์ เจ้าอาวาสวัดอื่นๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก ที่เกี่ยวข้องอีก 11 วัด มาทำการสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครนายก อีกด้วย

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่างจนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง

จนกระทั่งพบว่า นายนพรัตน์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัดเคสเก่าที่อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมพวกเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธ ที่อนุมัติให้วัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท

โดยหลังจากเจ้าอาวาสแต่ละวัดได้รับเงินอุดหนุนแล้ว ก็จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธเพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้ กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนําเงินไปแบ่งกับ นายนพรัตน์

อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนยังพบอีกว่า ทั้ง อดีต ผอ.สํานักงาน พระพุทธศาสนา และ เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน หลังได้เงินมาแล้วได้นำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่างๆ จํานวนมาก โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกันจํานวน 3 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท

โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนในลักษณะอําพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต และถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าวในวันนี้ขึ้นมาเพื่อตามตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินเหล่านี้กลับคืนสู่พระพุทธศาสนา

Drama-addict ห่วงสายลงทุน เตือนระวัง NFT แชร์ลูกโซ่

จ่าพิชิต เพจดราม่าแอดดิก ห่วงนักลงทุน โพสต์เตือนให้ระวัง NFT แชร์ลูกโซ่ ยกเคส gameFI ที่เพิ่งประกาศปิดตัว

วันที่ 18 ก.พ.65 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-Addict ออกมาโพสต์เตือนประชาชนให้ระวังภัย NFT หรือเหรียญโทเคนดิจิทัล ที่ทำขึ้นมาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ที่มาในรูปแบบ แชร์ลูกโซ่ อาศัยบุคคลมีชื่อเสียงสร้างความน่าเชื่อ โดยยกตัวอย่างเคสที่เคยมีคนหลงเชื่อเกี่ยวกับการหลอกลงทุนในรูปแบบที่คล้ายๆกัน แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการสูญเงินจำนวนมาก

โดยเพจจ่าพิชิต มีการยกตัวอย่างกรณีของ เกม GameFi ชื่อดังอย่าง “CryptoCars (CCAR)” ที่เพิ่งประกาศปิดตัวไปไม่นานนี้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีผู้ที่ขาดทุนจากเหรียญและ NFT ที่ซื้อมาเป็นจำนวนเท่าใด

ขณะที่ในส่วนของ NFT อีกรูปแบบที่เพจดังออกมาเตือนให้ควรระวังก็คือ NFT ที่มาใช้ในแง่แชร์ลูกโซ่ โดยจะมีการชักชวนทำนองให้มาซื้อ NFT  ถือไว้เฉยๆ แต่จะสามารถสร้างรายรับกลับมาอย่างสม่ำเสมอจากสินทรัพย์ที่ลงทุน อ้างว่าเป็นปันผลจากคนที่จะมาซื้อรุ่นต่อๆไป ถ้าหาคนมาซื้อ NFT ต่อ ยิ่งได้ปันผลมากขึ้น ก่อนที่สุดท้ายทางเพจจะย้ำว่า นี่คือเทคนิคของแชร์ลูกโซ่ล้านเปอร์เซ็นต์

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความเห็นรวมถึงเล่าประสบการณ์ที่เคยหลงเข้าไปลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่รูปแบบเดียวกันนี้ อาทิ

“ผมเป็นคนหนึ่งที่ลง และเข้าใจว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ ในวันที่มันยัง fomo จึงรีบถอนทุกราคาให้คืนทุนก่อน วันนี้หลายเกมที่ผมลงเรียกได้ว่า แตกหมดแล้ว แต่ก็ยังดีที่ไม่ขาดทุน”

“พวก NFT หลาย ๆ คนก็หัดยอมรับความจริงกันบ้างเถอะ ถึงจะขัดใจตัวเองอยู่บ้าง ไม่เสียฟอร์มหรอก ถ้าจะยอมรับว่าไอ้ที่ตัวเองเอาเงินไปลงทิ้งไว้เยอะ ๆ แล้วหวังกำไร หวังรวยกันเป็นมหาเศรษฐีโดยที่ไม่เผื่อใจเจ๊งกันเลย มันก็คือแชร์ลูกโซ่ดี ๆ นี่เอง และถ้าตีความและเข้าใจความหมายของคำว่า “ต้นน้ำ” วงการแชร์ลูกโซ่ได้แตกฉาน พวกคุณจะตาสว่างขึ้นเยอะ !!”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป